แนะนำการใช้ Amazon Q Developer เป็นผู้ช่วย Platform Engineer ด้านการเขียนโค้ด และได้รับผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด

ในปัจจุบัน AI ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป จึงไม่น่าแปลกใจที่คำว่า “AI” จะถูกพูดถึงบ่อยครั้ง เทคโนโลยี AI เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการทำงานได้อย่างมาก หนึ่งในเครื่องมือ AI ที่น่าสนใจในช่วงเวลานี้คือ Amazon Q Developer ซึ่งเป็น Generative AI ที่พัฒนาโดย AWS (Amazon Web Services) โดยมุ่งเน้นให้บริการแก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นหลัก

Amazon Q Developer คืออะไร?

Amazon Q Developer ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Amazon Q เป็น Generative AI ที่พัฒนาขึ้นโดย Amazon Web Services (AWS) เพื่อทำหน้าที่เป็น AI-Powered Code Assistant ช่วยให้การพัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถใช้งานร่วมกับ Code Editor ชั้นนำต่าง ๆ เช่น Visual Studio Code (VS Code) และ JetBrains IDEs (เช่น IntelliJ, PyCharm) ได้โดยการติดตั้ง Plugin เพียงไม่กี่ขั้นตอน

สำหรับการใช้งาน Amazon Q Developer นั้น ผู้ใช้จะต้องมีบัญชี AWS Builder ID เพื่อเข้าสู่ระบบผ่านโหมด Personal Profile ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเปิดใช้งาน Amazon Q Developer บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตน

แนะนำการใช้งาน Amazon Q Developer ใน VS Code

Amazon Q Developer มาพร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือ Developer โดยเฉพาะ เช่น

• 🔍 Code Explanation: อธิบายโค้ดที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น
• 🧪 Unit Test Generation: สร้าง unit test ให้โค้ดอัตโนมัติ
• 🛠️ Bug Detection & Fix: ตรวจหาข้อผิดพลาดในโค้ดและเสนอแนวทางแก้ไข
• 📚 Documentation Assistant: สร้างหรือแนะนำเอกสารประกอบโค้ด
• 🔄 Code Refactoring: ช่วยปรับปรุงโครงสร้างโค้ดให้ดีขึ้นโดยไม่เปลี่ยน logic
• 🤖 AI Chat: ถาม-ตอบแบบ Chatbot ที่เข้าใจบริบทของโค้ด

ซึ่งเราสามารถเรียกใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงพิมพ์เครื่องหมาย / ในช่องแชตของ Amazon Q Developer หรือจะใช้งานแบบ inline ภายใน IDE ก็ได้เช่นกัน เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ระหว่างการเขียน code ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

หลังจากที่ได้ลองใช้งาน Amazon Q Developer มาซักระยะ ก็พบว่ามันสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนแหล่งค้นหาความรู้เกี่ยวกับบริการของ AWS ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ IAM, VPC หรือบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานในสาย Platform Engineering ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย
นอกจากนี้ Amazon Q Developer ยังช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AWS SDK หรือการเขียน Infrastructure as Code ด้วย Terraform ก็ตาม

และในฐานะที่เป็น Platform Engineer คนหนึ่ง เราเองก็มีความสงสัยและอยากรู้ว่าเครื่องมือที่ออกแบบมาช่วยเหลือ Developer อย่าง Amazon Q Developer จะนำมาปรับใช้กับงานในสาย Platform ได้มากน้อยแค่ไหน และจะช่วยในด้านใดได้บ้าง?

ซึ่ง Platform Engineer คือตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เช่นในด้านการออกแบบ, สร้าง, ​และดูแลระบบ infrastructure และ platform ที่ใช้สำหรับการพัฒนาและดำเนินการของ application ต่างๆในองค์กร

ประสบการณ์ใช้งาน: Amazon Q Developer กับสายงาน Platform Engineering

เราต้องการทำ POC ในการ Integrate Azure AD กับ Jenkins ซึ่งอาจต้องมีการลบและสร้างเครื่องใหม่หลายครั้ง ทำให้เสียเวลาไปกับการติดตั้ง Jenkins และ Plugin ที่ต้องใช้งานทุกครั้ง ดังนั้น จึงอยากให้ Amazon Q Developer ช่วย generate โค้ด Ansible สำหรับติดตั้ง Jenkins พร้อมกับ Plugin ที่ระบุเวอร์ชันที่ต้องการได้เอง เพื่อนำไปติดตั้งซ้ำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

How we Tested

1. เนื่องจากเราได้เรียนรู้และใช้งาน AI Code Assistant มาก่อน เลยจะทราบดีว่า สิ่งที่จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและตรงตามความต้องการมากที่สุด คือการเขียนไฟล์ markdown เพื่อใช้ในการสร้าง Prompt ที่ชัดเจน และนี่คือไฟล์ requirement-amazonq.md ซึ่งใช้ระบุสิ่งที่ต้องการให้ Amazon Q Devloper ช่วย Generate ให้
   
2. ใช้ Amazon Q Developer ในการ generate โค้ด จาก markdownนี้ โดย Amazon Q จะสร้างโค้ดให้เรา พร้อมแนะนำวิธีการ รัน Ansible อย่างถูกต้อง
   
3. เราจะต้องปรับค่าบางอย่าง เช่น IP ของเครื่อง EC2, เวอร์ชันของ Jenkins และเวอร์ชันของ Plugin ที่ต้องการ จากนั้นจึงทดลองรัน Ansible

How it all turned out

ในการทดสอบครั้งแรกนั้น Ansible รันไม่สำเร็จ พบ Error: Unsupported parameters ใน Task Install Jenkins (ใช้โค้ดที่ได้จากการ Generate ของ Amazon Q Developer โดยยังไม่ได้ปรับแก้ใด ๆ) สิ่งที่เราทำต่อมาคือ คัดลอก Error ที่พบไปถาม Amazon Q Developer เพื่อให้ช่วย Troubleshoot และแก้ไขโค้ดให้

หลังจากแก้ไขโค้ดแล้ว เราได้ทำการรัน Ansible อีกครั้ง แต่พบปัญหาใหม่คือ Unzip: Command Not Found จึงนำ Error ดังกล่าวไปสอบถาม Amazon Q Developer อีกครั้ง เพื่อให้ช่วย Generate โค้ดเพิ่มเติมให้

และเมื่อรันอีกครั้งก็พบว่า Ansible ทำงานสำเร็จในที่สุด! เราสามารถ ติดตั้ง Jenkins พร้อม Plugin ได้อย่างง่ายดาย ด้วย Ansible ที่ Amazon Q Developer ช่วยเขียน แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบความถูกต้องที่หน้า Jenkins ก็พบว่าเอ่..🤔 ทำไม Plugin Version ที่ติดตั้งไม่ตรงกับที่เราระบุเอาไว้ โดย Version ที่ได้เป็น Version ล่าสุดของ Plugin ซึ่ง Ansible ที่เราใช้ก็มีโค้ดส่วนที่ให้ระบุ Version ของ Plugin แล้ว แต่ผลลัพธ์ยังไม่ถูกต้องตามที่เราต้องการ จึงนำสิ่งนี้ไปสอบถาม Amazon Q Developer ให้ช่วย Review และ Update โค้ดส่วนที่ระบุ Version อีกครั้ง หลังจากนั้นจึงทำการรัน Ansible จนกระทั่งใช้งานได้ตรงตามที่ต้องการในที่สุด🥳

Amazon Q Developer กับบทบาทของ AI ที่เป็นมากกว่าแค่ผู้ช่วย

จากการทดลองใช้ Amazon Q Developer ในครั้งนี้ ทุกคนคงจะเห็นถึงความสามารถของผู้ช่วย AI คนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วย Generate โค้ดเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว การปรับแต่งและแก้ไขโค้ด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของเรา และที่สำคัญคือเป็นคู่หูงานในสาย DevOps หรือ Platform ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ หากเราเขียน prompt ที่มีความละเอียดและชัดเจนมากขึ้น Amazon Q Developer ก็จะช่วยทำงานได้ อย่างแม่นยำและตรงตามความต้องการได้มากขึ้น

การเขียนสคริปต์ Ansible ด้วยตนเอง ต้องใช้เวลาไม่น้อยในการเรียนรู้การเขียนและทดลองใช้งาน แต่การทำงานร่วมกับ Amazon Q Developer ทำให้เราสามารถทำ POC ทั้งหมดให้เสร็จภายในวันเดียวได้ ซึ่งช่วยลดเวลาในการทำงานของเราไปได้มากกว่า 40% ด้วยเหตุนี้ Amazon Q Developer จึงไม่ได้เป็นเพียงผู้ช่วยด้านโค้ด แต่คือ ‘AI partner’ ที่พร้อมช่วยเราให้ทำงานได้รวดเร็วและง่ายขึ้น🎉

หวังว่าบทความนี้ จะเป็นการแนะนำเพื่อนใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่ม productivity ในการทำงานนะคะ

ซึ่งในงาน AWS Summit Bangkok วันที่ 29 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยพลังแห่งนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของวันนี้คือการเสวนาสุดพิเศษจาก พี่แว่น – ตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป CTO ธนาคารไทยพาณิชย์ และ CEO บริษัท SCB TechX ภายใต้หัวข้อ “Reimagining Thai Financial Services: AI-Powered and Cloud-Native” ภายในเวทีเสวนา พี่แว่นได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์เกี่ยวกับบทบาทของ AI และ Cloud ที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการบริการทางการเงินของไทย พร้อมทั้งแนะแนวทางให้องค์กรต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ท้ายนี้หากองค์กรท่านกำลังมองหาโซลูชันด้าน DevOps ช่วยปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นอัตโนมัติ ลดต้นทุนการทำธุรกิจ SCB TechX พร้อมเป็นโซลูชันที่ช่วยพัฒนา และ Deliver ผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่ตลาด ต่อยอดองค์กรของท่านให้เติบโตอย่างยั่งยืน สนใจบริการโปรดติดต่อเราที่ https://bit.ly/4jp81uM หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/42rLbgd

เว็บไซต์: https://scbtechx.io/th/services-products/cloud-solutions/
Facebook: https://www.facebook.com/scbtechx

Reference:

• https://docs.aws.amazon.com/signin/latest/userguide/sign-in-aws_builder_id.html
• https://aws.amazon.com/q/developer/
• https://docs.aws.amazon.com/amazonq/latest/qdeveloper-ug/what-is.html

บทความนี้เขียนโดยคุณ Panida Tungchitmunsakul, Platform Services Engineer – SCB TechX

Review โดยคุณ Narongrit Intasunta และ Chatcharoen Chivakanit, Senior Solutions Architect – AWS Thailand